5 เทคนิคการเก็บเงินล้านแรก ที่ใช้ได้จริงสำหรับคนรุ่นใหม่

เผยแพร่: 15 กรกฎาคม 2024แก้ไขล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2024

การเก็บเงินล้านแรกอาจดูเป็นเป้าหมายที่ไกลเกินเอื้อมสำหรับคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำงาน แต่ความจริงแล้วด้วยเทคนิคที่ถูกต้องและการวางแผนที่เหมาะสม การเก็บเงิน 1 ล้านบาทไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป บทความนี้จะแนะนำ 5 เทคนิคที่ใช้ได้จริงที่จะช่วยให้คุณเก็บเงินล้านแรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทำไมการเก็บเงินล้านแรกถึงสำคัญ?

อิสรภาพทางการเงิน

การมีเงินล้านแรกเป็นก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่อิสรภาพทางการเงิน เมื่อคุณมีเงินออมจำนวนหนึ่งแล้ว คุณจะมีทางเลือกในการทำงานมากขึ้น ไม่ต้องยึดติดกับงานที่ไม่ชอบเพียงเพราะเงินเดือน และสามารถเสี่ยงลงทุนในโอกาสใหม่ๆ ได้มากขึ้น

การสร้างฐานทรัพย์สิน

เงินล้านแรกจะกลายเป็นฐานทรัพย์สินที่สำคัญสำหรับการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว เมื่อคุณมีเงินทุนเริ่มต้นแล้ว การเก็บเงินล้านที่สองจะง่ายกว่ามาก เพราะผลตอบแทนจากการลงทุนจะช่วยเร่งการเติบโตของเงินทุนของคุณ

การเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต

เงินล้านแรกยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น การสูญเสียงาน ค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ หรือการลงทุนในการศึกษาต่อ การมีเงินสำรองจำนวนมากจะช่วยให้คุณรับมือกับความไม่แน่นอนได้ดีขึ้น

เทคนิคที่ 1 - วางแผนการลงทุนอย่างเป็นระบบ

การตั้งเป้าหมายการออม

ขั้นตอนแรกของการเก็บเงินล้านแรกคือการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจง แทนที่จะตั้งเป้าหมายแบบคลุมเครือว่า "อยากมีเงินเก็บเยอะๆ" ให้ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนว่า "จะเก็บเงิน 1 ล้านบาทภายใน 5 ปี" การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณคำนวณจำนวนเงินที่ต้องออมต่อเดือนได้แม่นยำ

การคำนวณระยะเวลาการเก็บเงิน

หากคุณต้องการเก็บเงิน 1 ล้านบาทภายใน 5 ปี คุณจะต้องออมประมาณ 16,670 บาทต่อเดือน หากออมเป็นเวลา 10 ปี จะต้องออมเพียง 8,335 บาทต่อเดือน การคำนวณนี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพชัดเจนว่าต้องปรับพฤติกรรมการใช้จ่ายอย่างไร

กลยุทธ์การแบ่งสัดส่วนเงิน

กฎ 50/30/20 เป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมสำหรับการจัดการเงิน โดยแบ่งเงินเดือนเป็น 50% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น 30% สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนตัว และ 20% สำหรับการออมและลงทุน หากคุณมีเป้าหมายเก็บเงินล้านแรกให้เร็วขึ้น อาจต้องปรับสัดส่วนเป็น 50/20/30 หรือ 50/15/35

เทคนิคที่ 2 - ลงทุนกองทุนรวมเพื่อการเติบโต

ข้อดีของกองทุนรวมสำหรับมือใหม่

กองทุนรวมเป็นเครื่องมือการลงทุนที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีความเชี่ยวชาญในการลงทุนโดยตรง เพราะมีผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์คอยดูแลการลงทุนให้ นอกจากนี้ยังสามารถเริ่มลงทุนได้ด้วยเงินจำนวนน้อย เพียง 1,000 บาทต่อเดือน

ประเภทกองทุนรวมที่เหมาะสม

สำหรับการเก็บเงินล้านแรก ควรเลือกกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงปานกลางถึงสูง เช่น กองทุนรวมหุ้นไทย กองทุนรวมหุ้นต่างประเทศ หรือกองทุนรวมผสม การลงทุนในกองทุนเหล่านี้อาจให้ผลตอบแทนประมาณ 8-12% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าฝากประจำมาก

วิธีการเลือกกองทุนรวม

การเลือกกองทุนรวมควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ผลการดำเนินงานในอดีต ความเสี่ยงของกองทุน ค่าธรรมเนียม และชื่อเสียงของบริษัทจัดการ แนะนำให้ศึกษาข้อมูลจาก Fund Fact Sheet และเปรียบเทียบกองทุนหลายๆ ตัวก่อนตัดสินใจ

เทคนิคที่ 3 - ลงทุนพันธบัตรเพื่อความมั่นคง

ความเสี่ยงต่ำกว่าหุ้น

พันธบัตรเป็นเครื่องมือการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำกว่าหุ้น โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลที่มีการรับประกันจากรัฐบาล ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการผลตอบแทนที่สูงกว่าฝากประจำแต่ไม่ต้องการเสี่ยงมากนัก

ผลตอบแทนที่คาดเดาได้

พันธบัตรให้ผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ยคงที่ ทำให้คุณสามารถคาดการณ์ผลตอบแทนที่จะได้รับได้อย่างแน่นอน ปัจจุบันพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวให้ผลตอบแทนประมาณ 2.5-4% ต่อปี ขึ้นอยู่กับอายุของพันธบัตร

วิธีการซื้อพันธบัตรรัฐบาล

คุณสามารถซื้อพันธบัตรรัฐบาลได้ผ่านธนาคาร บริษัทหลักทรัพย์ หรือผ่านระบบออนไลน์ เริ่มต้นได้ตั้งแต่ 1,000 บาท สำหรับการเก็บเงินล้านแรก แนะนำให้จัดสรรประมาณ 20-30% ของเงินลงทุนใส่พันธบัตรเพื่อสร้างความมั่นคง

เทคนิคที่ 4 - ฝากประจำดอกเบี้ยสูงเป็นฐาน

การเปรียบเทียบดอกเบี้ยธนาคาร

ธนาคารต่างๆ ให้ดอกเบี้ยฝากประจำที่แตกต่างกัน ปัจจุบันดอกเบี้ยฝากประจำอยู่ที่ประมาณ 0.5-2% ต่อปี ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการฝากและจำนวนเงิน ธนาคารออนไลน์มักจะให้ดอกเบี้ยสูงกว่าธนาคารดั้งเดิม

กลยุทธ์การฝากแบบขั้นบันได

การฝากแบบขั้นบันได (CD Laddering) เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้คุณได้ดอกเบี้ยสูงแต่ยังคงสภาพคล่องไว้ โดยแบ่งเงินฝากออกเป็นหลายส่วนและฝากในระยะเวลาที่ต่างกัน เช่น 6 เดือน 1 ปี และ 2 ปี

ข้อดีข้อเสียของฝากประจำ

ข้อดีของฝากประจำคือความปลอดภัยสูงและผลตอบแทนที่แน่นอน แต่ข้อเสียคือผลตอบแทนต่ำและอาจไม่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ แนะนำให้ใช้ฝากประจำเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุน ไม่ควรใช้เป็นเครื่องมือเดียว

เทคนิคที่ 5 - สร้างแผนการลงทุนเพื่ออิสรภาพทางการเงิน

การผสมผสานเครื่องมือการลงทุน

การเก็บเงินล้านแรกอย่างมีประสิทธิภาพต้องใช้เครื่องมือการลงทุนหลายประเภทร่วมกัน แนะนำให้จัดสรรเงินดังนี้ กองทุนรวมหุ้น 40% พันธบัตร 30% ฝากประจำ 20% และเงินสดฉุกเฉิน 10% สัดส่วนนี้อาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้

การกระจายความเสี่ยง

การกระจายความเสี่ยงเป็นหลักการสำคัญที่จะช่วยป้องกันการสูญเสียเงินลงทุนครั้งใหญ่ อย่าใส่เงินไว้ในเครื่องมือการลงทุนชนิดเดียว หรือในตลาดเดียว ควรกระจายการลงทุนไปหลายประเภทและหลายภูมิภาค

การปรับแผนตามช่วงอายุ

แผนการลงทุนควรปรับเปลี่ยนไปตามอายุ ในวัยหนุ่มสาวสามารถเสี่ยงได้มากกว่า จึงควรลงทุนในกองทุนหุ้นสัดส่วนสูง แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้นควรลดความเสี่ยงลงโดยเพิ่มสัดส่วนพันธบัตรและฝากประจำ

สรุป: เริ่มต้นเก็บเงินล้านแรกวันนี้

ขั้นตอนการเริ่มต้น

การเก็บเงินล้านแรกต้องเริ่มจากการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน จากนั้นจึงเลือกเครื่องมือการลงทุนที่เหมาะสม เริ่มต้นด้วยการลงทุนสม่ำเสมอทุกเดือน ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเงินมากหรือน้อย ความสม่ำเสมอเป็นกุญแจสำคัญของความสำเร็จ

เครื่องมือและแอพที่ช่วยได้

ในยุคดิจิทัลนี้มีแอพและเครื่องมือมากมายที่ช่วยให้การออมและลงทุนง่ายขึ้น เช่น แอพธนาคารที่มีฟีเจอร์ออมอัตโนมัติ แอพลงทุนกองทุนรวม หรือแอพติดตามค่าใช้จ่าย การใช้เทคโนโลยีจะช่วยให้คุณบริหารเงินได้ดีขึ้น

เป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว

นอกจากเป้าหมายระยะยาวคือการเก็บเงินล้านแรกแล้ว ควรตั้งเป้าหมายระยะสั้นด้วย เช่น เก็บเงิน 10,000 บาทในเดือนแรก หรือเก็บเงิน 100,000 บาทในปีแรก การมีเป้าหมายระยะสั้นจะช่วยให้คุณรู้สึกมีแรงจูงใจและเห็นความก้าวหน้าอย่างชัดเจน

การเก็บเงินล้านแรกไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ หากคุณมีแผนที่ถูกต้องและลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ ด้วย 5 เทคนิคที่แนะนำไปแล้ว คุณจะสามารถเก็บเงินล้านแรกได้อย่างแน่นอน สิ่งสำคัญคือต้องเริ่มต้นวันนี้และมีความอดทนในการทำต่อไป

ดาวน์โหลดแอพฟรี Money Wise วันนี้

เริ่มต้นการจัดการการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ ดาวน์โหลดฟรี พร้อมใช้งานทันที

ดาวน์โหลดฟรีได้ที่:

Download on the App StoreGet it on Google Play